สนับก้นของอเฟลลาย ?

" การได้ลงเล่นกับบาร์เซโลน่าคือความฝันของผม " วาทะสุดฮิตที่เหล่าบรรดาผู้ค้าแข้งทั้งหลายต่างต้องกล่าวก่อนที่จะได้เซ็น สัญญากับสโมสรใหม่ และอิบราฮิม อเฟลลายก็เป็นหนึ่งในนั้น ! แต่กล่าวใช่ประเด็น

นักเตะชาวดัตช์วัย 24 ปีผู้นี้ได้ย้ายมาสู่สโมสรบาร์เซโลน่าอย่างเป็นทางการในช่วงประมาณ 1 สัปดาห์ที่มีข่าวคราว ต้องชื่นชมสปอร์ต ไดเรคเตอร์ของทีมคนใหม่อย่าง 'อันโดนี่ ซูบีซาเรตต้า' และประธานสโมสรคนปัจจุบัน 'ซานโดร โรเซลล์' ที่ทำให้การเจรจาครั้งนี้เป็นไปได้ด้วยสมบูรณ์และรวดเร็ว หลังจากที่ได้รับการอนุมัติจากเป๊ป กวาร์ดิโอล่าว่าอเฟลลายคือความต้องการของเขา !

อิบราฮิม อเฟลลายเป็นนักเตะคนที่ 7 จากสโมสร PSV ที่ได้ย้ายสู่บาร์เซโลน่า และแข้งชั้นนำก่อนหน้านั้นร่วมด้วย

http://img254.imageshack.us/img254/1908/ream2.jpg

1. โรนัล คูมัน : ตำนานกองหลังชาวดัตช์ของบาร์เซโลน่าผู้ซึ่งอยู่ในยุคเอล ดรีมทีมของโยฮัน ครอยฟ์และคูมันยังเป็นกองหลังที่ถือได้ว่าทำประตูเยอะที่สุดในโลก และยังเป็นผู้ยิงให้บาร์เซโลน่าเอาชนะซามพ์โดเรียในรอบชิงชนะเลิศถ้วยยูโร เปี้ยนคัพในปี 92's ซึ่งถือว่าเป็นการคว้าถ้วยยุโรปครั้งแรกของทีมเลือดหมูน้ำเงิน คูมันค้าแข้งกับบาร์ซ่าทั้งสิ้น 6 ปี

2. โรมาริโอ้ : ศูนย์หน้าดาวยิงรูปร่างมะขามป้อมผู้ซึ่งย้ายสู่บาร์เซโลน่าในปี 1993 ในช่วงปลายยุคของเอล ดรีมทีม โรมาริโอทำประตูให้บาร์ซ่าไปทั้งหมด 53 ประตูใน 84 แมตช์การแข่งขัน ค้าแข้งในถิ่นคัมป์นู 2 ปีด้วยกัน

3. โรนัลโด้ : ศูนย์หน้าที่ถือยกย่องกว่าเป็นหนึ่งนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกเจ้าของฉายา 'เหยินใหญ่' (ในไทย) อยู่กับสโมสรบาร์ซ่าเพียงแค่ 1 ฤดูกาลเท่านั้นในปี 1997 โรนัลโด้ลงเล่นทั้งหมด 51 เกมส์และทำประตูไปทั้งหมดทั้งสิ้น 47 ประตูถือว่าเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรบาร์เซโล น่า

4. โคคู : อดีตนักเตะชาวดัตช์ขวัญใจสาวกกูเล่ผู้ซึ่งเป็นนักเตะสารพัดประโยชน์เล่นได้ หลากหลายตำแหน่ง โคคูลงเล่นให้กับบาร์ซ่าทั้งหมด 292 แมตช์ และโคคูก็ยังเป็นนักเตะต่างชาติที่ลงเล่นให้กับบาร์เซโลน่ามากที่สุดใน อันดับของสโมสรอีกเช่นกัน โคคูค้าแข้งให้กับบาร์ซ่าในปี 1998-2004

5. เซนเด้น : เฉกเช่นเดียวกับโคคู เซนเด้นย้ายมาสู่บาร์ซ่าในปี 1998 ค้าแข้งอยู่ในถิ่นคัมป์ นูเป็นเวลา 3 ฤดูกาลก่อนที่จะย้ายไปสู่ทีมสิงโตน้ำเงินคราม 'เชลซี'

6. มาร์ค ฟาน บอมเมล : มิดฟิลด์พันธุ์ดุผู้นี้ย้ายสู่บาร์ซ่าในปี 2005 ด้วยระบบฟรีเอเยนต์ บอมเมลค้าแข้งในถิ่นคัมป์ นูเพียงแค่ 1 ฤดูกาลซึ่งเขาก็ประสบความสำเร็จกับบาร์ซ่าทั้งแชมป์ลาลีกา ลีคและยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค


อดีตนักเตะจาก PSV ทั้งหมด 6 คนข้างต้นที่กล่าวมาถือได้ว่าเป็นนักเตะที่ประสบความสำเร็จกับบาร์เซโลน่า ทั้งสิ้นไม่มากก็น้อย และไม่ถึงขั้น 'ล้มเหลว' แต่สำหรับนักเตะใหม่แกะกล่องพร้อมผูกโบว์อย่างอเฟลลายยังเป็นข้อสงสัย ? รวมไปถึงการเสริมทัพครั้งนี้ยังชวนผูกคิ้วเป็นรูปโบว์ให้กับแฟนบอลหลายคนว่า อเฟลลายจำเป็นจริงๆหรือสำหรับบาร์ซ่า !? การเสริมทัพของกวาร์ดิโอล่าครั้งนี้จะเป็นที่ประทับใจหรือไม่ !? และจะเป็นการปิดโอกาสจากเหล่าอาซูลกราน่าน้อยจากชุด B หรือเปล่า !? คำตอบในบรรทัดพิมพ์ต่อไปคงแก้ไขข้อฉงนใจของใครต่อหลายใครได้ไม่มากก็น้อย ครับ ..

http://vr21.es/wp-content/uploads/2009/02/ibrahim-afellay.jpeg

บทที่หนึ่ง : ความจำเป็น ?

อเฟลลายเป็นหนึ่งในนักเตะจากความต้องการของ โจเซป กวาร์ดิโอล่าหัวเรือใหญ่ของทีม และเขาก็ได้ถูกกล่าวต้อนรับจากอันโดนี่ ซูบีซาเรตต้าว่า " อเฟลลายเป็นนักเตะที่มีสไตล์ที่เข้ากันกับบาร์ซ่า การเคลื่อนไหวและสไตล์การเล่นของเขาทำให้ผมนึกถึงอันเดรียส อิเนียสต้า เขามีความเร็วในตำแหน่งปีกและสามารถทดแทนในตำแหน่งมิดฟิลด์ได้เช่นกัน "

ข้อความข้างต้นทำให้จับมาแตกเป็นประเด็นได้ว่าอเฟลลายนั้นสามารถลงเล่นให้ กับบาร์ซ่าได้สองตำแหน่งนั่นคือในตำแหน่งปีกซ้ายหรือขวา ซึ่งในแผงกองหน้าของบาร์ซ่าในฤดูกาลนี้นั้นตำแหน่งปีกซ้ายตายตัวส่วนใหญ่จะ ตกอยู่ที่ดาวิดบีญ่า และในตำแหน่งปีกขวาซึ่งคนส่วนใหญ่จะคิดว่าเป็นหลักปักฐานของเมสซี่เท่านั้น แต่ทว่าในฤดูกาลนี้หากสังเกตุกันจริงๆแล้ว เมสซี่นั้นได้ยืนในส่วนของตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าบ่อยครั้งด้วยซ้ำไป (กวาร์ดิโอล่าได้ลองใช้เมสซี่เล่นในตำแหน่งนี้ตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมาหลัง จากที่ซลาตันโดนไล่ออกในแมตช์กับอัลเมเรีย)

ซึ่งหากจับเมสซี่ไปอยู่ในตำแหน่งของหน้าเป้า และเปโดรในตำแหน่งปีกขวา ก็จะทำให้ในทีมชุดใหญ่ของบาร์ซ่านั้นมีสำรองในตำแหน่งกองหน้าเพียงแค่ 2 คนด้วยกันนั่นก็คือโบยาน และเจฟเฟรน และหากรวมชื่อของอเฟลลายเข้าไปด้วยแล้วก็จะครบตามตำแหน่งกองหน้า 3 คนของบาร์ซ่าพอดิบพอดี คำถามต่อมาก็คือถึงแม้นว่าจะมีตัวสำรองทดแทนกันทั้งสามตำแหน่งก็ใช่ว่าอเฟล ลายจะได้ลงเล่นอย่างสม่ำเสมอ ?

ผู้เขียนบอกได้เพียงแค่ว่าหากอเฟลลายปรับตัวเข้ากับบาร์ซ่าได้เร็วเท่าไหร่ เขาจะมีโอกาสลงสนามได้สูงกว่าโบยานและเจฟเฟรนด้วยซ้ำไป ด้วยวัย 24 ปีมีประสบการณ์การค้าแข้งกับสโมสรที่พอสมควรและจากทีมชาติชุดใหญ่บวกเพิ่ม เข้าไป แค่นี้ก็ทำให้ % ที่อเฟลลายจะเป็นตัวเลือกที่อยู่เหนือเปโดร เจฟเฟรน และโบยาน สามนักเตะจากลา มาเซียก็เป็นไปได้มากอยู่พอสมควร ถึงแม้ว่าระบบทีมของเป๊ปจะยืนพื้นไปด้วยนักเตะจากลา มาเซียก็ตาม

โบยาน เคร์คิซกำลังอยู่ในช่วงดาวรุ่งที่เค้นหาฟอร์มและแนวทางของตัวเอง เขาเป็นนักเตะที่ขยันมุทะลุ แต่ยังหาจุดเด่นที่แน่ชัดของตัวเองออกมาไม่เจอ พร้อมกับฟอร์มที่ขาดมั่นใจในการทำประตูตอนนี้ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าประหลาดใจที่บาร์ซ่าจะเสริมนักเตะในตำแหน่งกองหน้า คนใหม่เข้ามา รวมไปถึงฟอร์มของเจฟเฟรน ซัวเรสที่ยังทำอะไรไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียทีกับทีมบาร์ซ่าชุดใหญ่และปัญหา ของนักเตะสายเลือดเวเนซูเอล่าผู้นี้ที่ประสบในซีซั่นท์นี้ก็คืออาการบาดเจ็บ ที่รบกวนอยู่ตลอดเวลาจำเป็นให้เป๊ปต้องเสริมศักยภาพในแดนหน้าสำหรับการ ป้องกันแชมป์ลีค พร้อมด้วยการไล่ล่าถ้วยยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีค และโคปา เดล เรย์

และสุดท้ายที่น่าสนใจในประเด็นคำพูดกล่าวขวัญอเฟลลายของซูบีซาเรตต้านั่นคือ " เขาเป็นนักเตะที่มีสไตล์คล้ายอิเนียสต้า และสามารถเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ได้ รวมไปถึงการยิงไกลในระยะแถวสองที่ทรงพลัง "

ระยะแถวสองที่ขาดหายไปของบาร์ซ่าหากอเฟลลายสามารถมาเติมเต็มตรงนี้ได้อย่าง สมบูรณ์เขาก็จะเป็นนักเตะที่ได้รับโอกาสสำหรับเป๊ป กวาร์ดิโอล่ามากขึ้นอย่างแน่นอน ด้วยสไตล์การเล่นที่น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของแฟนบอลแล้ว หากอเฟลลายทำให้ความอันตรายของระยะแถวสองในเกมส์รุกของบาร์ซ่าน่ากลัวขึ้น ก็ไม่ควรปฏิเสธที่เขาน่าจะได้มีโอกาสลงเล่นอย่างสม่ำเสมอในตำแหน่งปีกก็ดี หรือในตำแหน่งมิดฟิลด์ก็ดีในยามที่อิเนียสต้าเจ็บ หากแต่เป๊ปยังไม่ดื้อดึงใช้งานมิดฟิลด์ทีมชาติมาลีอย่าง 'เซดูร์ เกต้า' ผู้ซึ่งเป็นที่พะว้าพะวงของเหล่าสาวกกูเล่ !

http://media.onsugar.com/files/2010/08/34/2/342/3425287/dd6cf129e09e54f6_Malaga_v_Barcelona_La_Liga_KQNIB4ADuy2l.xxlarge.jpg

บทที่สอง : กวาร์ดิโอล่ากับตลาดซื้อขายนักเตะ ?

นักเตะที่ได้รับการโหวตจากแฟนบอลว่าคุ้มที่ สุดในการซื้อตัวของเป๊ป กวาร์ดิโอล่าในการคุมทีมฤดูกาลแรกนั่นคือ 'เคราด ปิเก้' ที่บาร์เซโลน่าซื้อตัวมากจากทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดด้วยราคาประมาณ 4-5 ล้านยูโร รวมไปถึงดาเนียล อัลเวสก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กันแต่ด้วยราคา 32 ล้านยูโร + ออฟชั่นความสำเร็จ ทำให้ความคุ้มค่าตกไปอยู่ที่ปิเก้ตามความเหมาะสม

ในฤดูกาลต่อมาถือว่าเป็นฤดูกาลที่เป๊ป กวาร์ดิโอล่าถูกตำหนิติติงจากการเสริมทัพมากที่สุดก็ว่าได้บาร์ซ่าทุ่มเงิน กระชากซลาตัน อิบราฮิโมวิชด้วยมูลค่ารวมทั้งหมดทั้งสิ้นราวๆ 60 ล้านยูโรซึ่งเป็นนักเตะที่ค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร รวมไปถึงค่าเหนื่อยของชาวสวีดิชผู้นี้เช่นกัน และประการหลังดีกรีปริญญาโทชาวยูเครนดิมิโทร ชีกรินสกี้วัย 22 ปีด้วยราคาประมาณ 22 ล้านยูโร ทั้งสองนักเตะถือเป็นความล้มเหลวในการเสริมทัพของกวาร์ดิโอล่าทั้งสิ้น และนักเตะที่ได้รับผลโหวตจากแฟนบอลว่าเป็นการเสริมตัวที่ดีและคุ้มค่าที่สุด ก็เป็นของ 'แม๊กซ์เวล อันดราเด้' แบคซ้ายชาวบราซิเลียนที่ย้ายมาจากอินเตอร์ มิลานด้วยราคาค่าตัวอยู่ที่ประมาณ 3-4 ล้านยูโรเพียงเท่านั้น !!

มาถึงฤดูกาลนี้บาร์ซ่าเสริมทัพนักเตะเพียงแค่สามคนเท่านั้นนั่นก็คือ 'ฮาเวียร์ มาสเคราโน่' ในราคาประมาณ 20 ล้านยูโร ดาวิด บีญ่าร่วม 40 ล้านยูโร และอาเดรียโน่ คอเรียอาร์ประมาณ 4-5 ล้านยูโร (ขออภัยหากข้อมูลค่าตัวนักเตะตรงนี้ผิดพลาด) กล่าวถึงคนแรกก็คือมาสเคราโน่ซึ่งบทบาทของมิดฟิลด์ตัวรับชาวอาเจนไตน์ผู้นี้ ก็ยังอยู่ในม้านั่งสำรองมากกว่าการได้ลงเล่นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ สำหรับในส่วนของดาวิด บีญ่านั้นคงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไรสักเท่าไหร่ ด้วยสไตล์การเล่นที่ถนัดคัดแข้งกับสังเวียนลาลีกา และในนามทีมชาติกับการอยู่ในทีมที่รายล้อมไปด้วยนักเตะจากทีมเลือดหมู น้ำเงิน และการจากไปของซลาตันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ดาวิด บีญ่าจะได้ลงเล่นเป็นตัวจริงตั้งแต่แมตช์แรก และฟอร์มของเขาก็ไม่มีเครื่องหมายคำถามในตัวจากแฟนบอลเช่นกัน และสุดท้ายกับอาเดรียโน่แบคบราซิเลียนจากเซบีญ่าผู้ซึ่งถูกดึงตัวมาเป็นแบ คอัพในตำแหน่งแบคซ้ายแบคขวาก็ย่อมไม่ใช่เรื่องแปลกใจที่เขาจะไม่ได้รับโอกาส ที่มากพอสมควรในซีซั่นท์นี้

และด้วยเหตุผลของทั้งมาสเคราโน่และอาเดรียโน่นั้น เป็นเหตุซึ่งนำมาสู่ข้อสงสัยถัดมากับนักเตะคนใหม่อย่างอเฟลลายว่าเขาจะได้ลง เล่นหรือ ? หรือทว่าการมาคัมป์ นูครั้งนี้ของอเฟลลายควรจะนำสนับก้นติดตัวมาด้วยในฐานะผู้นั่งเล่นในซุ้มม้า นั่งสำรอง

หากได้พินิจน์พิเคราะห์ในบทที่หนึ่งแล้วผู้อ่านน่าจะได้คำตอบจากข้อสงสัยนี้ เพิ่มขึ้นในระดับหนึ่ง ในบทนี้สำหรับการซื้อขายแล้ว หากดูจากราคาค่าตัวของอเฟลลายในราคาที่ประมาณ 3-5 ล้านยูโรกับนักเตะที่เป็นที่จับตามองจากหลายๆทีมชั้นนำในยุโรปอย่างแมนเชส เตอร์ ยูไนเต็ด และอาเซนอล ก็ถือว่าคุ้มค่าในระดับหนึ่งแล้วแม้ว่าเจ้าตัวจะยังไม่ได้ลงสัมผัสเกมส์ใน คัมป์ นูพร้อมเสื้อสีเลือดหมูน้ำเงินเลยก็ตามที ..

ต่อมากับการคิดต่อยอดการซื้อขายครั้งนี้ (อาจจะ!!) มีผลทำให้บาร์ซ่านั้นหยุดชะงักการทุ่มเงินซื้อเชส ฟาเบรกัสเลยก็เป็นได้ เมื่อโครงสร้างที่คิดไว้สำหรับเชส ฟาเบรกัสนั่นคือในตำแหน่งกองกลาง และโยกอิเนียสต้าไปเป็นปีกตามสมรรถภาพ ก็ย่อมไร้ข้อสงสัย

แต่เมื่ออเฟลลายมาเสริมในตำแหน่งปีกซ้าย ! และสามารถลงเล่นสลับตำแหน่งกับอันเดรียส อิเนียสต้าได้อีกเป็นทางเลือกเสริม ! ทำให้จากการมองดูภาพรวมตรงนี้ % การเสริมตัวเชส ฟาเบรกัสเริ่มน้อยลงไปอย่างไร้ข้อสงสัย หากจะคิดไปถึงการจำกัดงบประมาณการเสริมทีมของบาร์ซ่าด้วยยิ่งเป็นไปได้ หากการบริหารของซานโดร โรเซลล์ต้องการจำกัดงบประมาณอย่างจริงจัง และไม่ต้องการทุ่มซื้อนักเตะคนไหนด้วยราคาที่สูงเกินกว่าความจำเป็นเกินไป อย่างเช่นในรายของเชส ฟาเบรกัสที่ค่าตัวในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาสูงชรูดไปถึงมากกว่า 50 ล้านยูโร ก็หวังได้แต่ว่าอเฟลลายจะมาเติมเต็มในจุดตรงนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับนักเตะที่รอวันเฉิดฉายจากชุด B อย่างเธียโก้ อัลคานทาร่า และโจนาธาน ดอส ซานโตส !!


http://img593.imageshack.us/img593/2640/3271large.jpg

บทที่สาม : ความหวังของนักเตะชุด B ?

เป็นคำถามที่ออกมาจากเหล่าสาวกแฟนบอลบาร์ซ่าว่าการเสริมตัวอเฟลลายจะไม่เป็นการปิดกั้นโอกาสของเหล่านักเตะจากชุด B หรืออย่างไร ?

ยอม รับตามตรงครับว่ามีส่วนแต่คงไม่ทั้งหมด โคปา เดล เรย์ยังเป็นเวทีที่เป๊ปกวาร์ดิโอล่ายังใช้เด็กปั้นของทีมให้ได้มาโอกาสเต็ม ที่ในการวาดลวดลายบนพื้นสนามและพิสูจน์ตัวเอง แต่ในทัวร์นาเมนต์สำคัญๆของฤดูกาลนี้อย่างลาลีกา และแชมป์เปี้ยนลีค ก็เห็นได้ชัดว่าเป๊ปนั้นยังเลือกใช้งานนักเตะจากชุด B ไม่มากสักเท่าไหร่ การบาดเจ็บของมิลิโต้และการย้ายตัวของมาเกวซและชีกรินสกี้ ก็ทำให้ตำแหน่งกองหลังตัวกลางนั้นดูบอบบางลง ก่อนหน้านี้สื่อต่างๆก็ได้คาดเดาว่านักเตะที่น่าจะขึ้นสู่ชุดใหญ่มาเป็นแบ คอัพให้กับปูโยลและปิเก้น่าจะเป็นโอกาสของแอนดรูว์ ฟอนทาส แต่กลับกัน ! เป๊ปยังเลือกใช้นักเตะในทีมชุดใหญ่อย่างเอริค อบิดัลในตำแหน่งแบคซ้ายหุบเข้ามาเล่นในตำแหน่งประการหลังตัวกลางแทนที่

ซึ่งคอมเมนต์จากบรมครูของเป๊ปอย่างโยฮัน ครอยฟ์ก็ได้บอกว่าเป็นการทำที่ยอดเยี่ยมมาก เป๊ปรู้คุณภาพของนักเตะในทีมเป็นอย่างดีและรู้ช่วงจังหวะโอกาสของเด็กจากชุด B ว่าควรจะได้รับโอกาสและใช้งานในตอนไหนอย่างไร การใช้งานจากเด็กชุด B ของกวาร์ดิโอล่าในฤดูกาลนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ในตำแหน่งกองกลางอย่างเธียโก้ เป็นหลัก ในส่วนของโจนาธานนั้นหลากหลายคนเอ่ยถามว่าทำไมเป๊ปถึงยังไม่เรียกขึ้นชุด ใหญ่อย่างเต็มตัวสักที !? โจนาธานนั้นยังคงปักหลักอยู่ในชุด B เป็นกำลังหลักให้กับทีมเล่นในเซกุนด้า ดิวิชั่น

จากการสังเกตุในระยะหลังนั้นเป๊ปมักจะใช้โจนาธานเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัว รับ เป็นเหตุว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รับโอกาสในฤดูกาลนี้อย่างที่แฟนบอลหวังไว้ เพราะในตำแหน่งนั้นมีนักเตะยืนพื้นหลักอยู่แล้วอย่างเซอร์จิโอ บุสเก็ตส์และฮาเวียร์ มาสเคราโน่ก็เป็นตัวสำรองที่แข็งแกร่ง อาจจะรวมไปถึงเซดูร์ เกต้าก็ย่อมได้กับตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับที่สามารถทดแทนกันได้ และนี่ก็น่าจะเป็นเหตุสำหรับโอกาสของโจนาธาน

กลับเข้าสู่การมาของอเฟลลายนั้นจะเป็นการปิดโอกาสจากนักเตะชุด B หรือไม่ ? โดยส่วนตัวแล้วนั้นคิดว่ายังไม่ใช่การปิดโอกาสจากนักเตะชุด B เสียซะทีเดียว หากมองในภาพ ณ ตอนนี้ว่าอเฟลลายเป็นนักเตะที่เป็นแบคอัพให้กับดาวิด บีญ่าและอันเดรียส อิเนียสต้า ในตำแหน่งการเล่นของเธียโก้นั้นสามารถเล่นได้ทั้งตำแหน่งของชาบี้และอิ เนียสต้า ซึ่งนักเตะสายเลือดบราซิลลูกชายของมาซินโญ่อดีตมิดฟิลด์ทีมชาติบราซิลชุด แชมป์โลกปี 94's ผู้นี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหามากนักสำหรับโอกาสในทีมชุดใหญ

ในส่วนของกองหน้านั้นยังเป็นปัญหา 'โนลิโต้' นักเตะวัย 24 ปีเท่ากับอเฟลลายในทีมชุด B ที่โชว์ฟอร์มได้ประทับใจในแมตช์ที่บาร์ซ่าเสมอกับมายอว์ก้าในบ้านและในแมตช์ กับเซอูต้าในศึกโคปา เดล เรย์ นับว่าเป็นนักเตะที่มีเสียงจากแฟนบอลอยู่หนาพอสมควรสำหรับโอกาสที่จะได้รับ ในการขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ ถึงแม้ว่าโนลิโต้นั้นจะไม่ได้เป็นนักเตะที่อยู่กับลา มาเซียมาตั้งแต่เด็ก แต่ฟอร์ม ณ ตอนนี้ก็น่าสนใจสำหรับการผลักดันขึ้นมาสู่ชุดใหญ่

มองในความเป็นจริงก็น่าเสียดายพอสมควรครับ อเฟลลายมีดีกรีที่ดีกว่าในวัยที่เท่ากันหากเขาสามาถปรับตัวได้เร็วและสร้าง ฟอร์มที่ประทับใจให้กับบาร์ซ่าโอกาสของทั้งโนลิโต้ในทีมชุดใหญ่ก็น่าจะ ริบหรี่ลงไปเช่นเดียวกัน รวมไปถึงในรายของเจฟเฟรน ซัวเรสที่พ่อของเขาออกมาเรียกร้องเป๊ป กวาร์ดิโอล่าสำหรับโอกาสในทีมชุดใหญ่ที่ควรจะมากกว่านี้ แต่หากฟอร์มยังคงที่ไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์สำหรับเกมส์รุกบาร์ซ่าได้ มากกว่าที่ควรจะเป็นเช่นนี้ โอกาสของปีกจากเตเนริเฟ่ผู้นี้ก็คงจะหมดไปเช่นเดียวกัน !

เหนือสิ่งอื่นใดการมาของอเฟลลายครั้งนี้ เชื่อว่าย่อมจะสร้างความเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างของบาร์เซโลน่าในตามที่ เขียนไว้ข้างต้นอย่างแน่นอน ซึ่งความจริงและโมเมนตัมของการซื้อขายก็ดีหรือในทีมชุด B ก็ดี และรวมไปถึงประเด็นว่านักเตะชาวดัตช์ผู้นี้จะต้องเตรียมสนับก้นในถิ่นคัมป์ นูหรือไม่ !! จะเป็นอย่างไรต้องติดตามความจริงในช่วงมกราคมที่จะถึงนี้กับนักเตะใหม่ของ บาร์เซโลน่าที่ชื่อว่าอิบราฮิม อเฟลลาย !!

0 ความคิดเห็น:

Leave a Comment

Back to Home Back to Top OAKK's COLUMN. Theme ligneous by pure-essence.net. Bloggerized by Chica Blogger.