อาร์เจนติน่ากับภารกิจตามหาหัวใจ !!

ทีมชาติอาร์เจนติน่าได้ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศที่มีอุตสาหกรรมนักเตะโดดเด่นอันดับต้นๆของโลก แค่เอ่ยชื่อสโมสรอย่างโบคา จูเนียร์ และ ริเวอร์ เพลทก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหากนึกที่สองสโมสรคำที่ปรากฏในหัวสมองนั้นจะเริ่มต้นด้วยที่ นักเตะดาวรุ่งเชื้อชาติอาร์เจนติน่า

สองสโมสรนี้ได้ขึ้นชื่อเรื่องการผลิตนักเตะดังๆมากมายหลายต่อหลายคน หลายต่อหลายยุคพูดกันตรงๆเลยก็บอกได้ว่าอาร์เจนติน่านั้นไม่เคยขาดแคลนนักเตะคุณภาพในทุกๆยุคสมัย ...แต่ทว่า... ในทีมชาติุชุดใหญ่ ณ ปัจจุบันนั้นได้เกิดหลุมดำในตำแหน่ง "มิดฟิลด์ตัวรุก"



การเข้ามาคุมบังเหียนของตำนานฟ้าขาว "ดีเอโก้ มาราโดน่า" ..ได้เกิดสภาวะเปลี่ยนแปลงหลายอย่างที่ส่งผลกระทบในด้านลบมากกว่าด้านบวก .. ฝีเท้าที่จัดจ้านอันดับต้นๆของโลกไม่ได้สามารถทำให้มาราโดน่าประสบความสำเร็จในฐานะโค้ชทีมชาติ มีแต่เพียงบารมีเท่านั้นที่ยังคงพอทำให้ลูกทีมได้มีความเชื่อที่จะสู้ต่อไป ...

ก่อนหน้าที่มาราโดน่าจะเ้ข้ารับการคุมทีม ..อาร์เจนติน่าในยุค "บาซิเล่" ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่สักเพียงใดเลยหากจะเปรียบเทียบกับยุคมาราโดน่านั้น ..บาซิเล่ไม่ได้เป็นรองเลยแม้แต่น้อย และในตำแหน่งที่ปัญหาหลุมดำอย่างมิดฟิลด์ตัวรุกในปัจจุบันไม่ได้เริ่มต้นมาจากยุคของบาซิเล่ ..แต่ทว่ามันเกิดขึ้นในยุคของมาราโดน่าจริงๆ

ฮวน โรมัน ริเคลเม่จอมทัพทีมชาติฟ้าขาวที่เปรียบเสมือนหัวใจในเกมส์รุกของอาร์เจนติน่าเลยก็ว่าได้.. หน้าที่ของริเกลเม่ก็คือการเคลื่อนเกมส์รุกจากกลางสนามเชื่อมโยงไปถึงด้านกองหน้า ..บอลของริเกลเม่นั้นเปอร์เซ็นต์ที่จะพลาดนั้นมีน้อยทีเดียว ..และมุมมองของจอมทัพหน้าเครียดผู้นี้ก็กว้างขวางการผ่านบอลของริเกลเม่มีครบทุกรูปแบบ ..และการผ่านบอลในรูปแบบ "คิลเลอร์ พาส" เป็นไม้ตายของริเกลเม่ที่สามารถเปลี่ยนสกอร์ได้เลย ..ฟรีคิกที่หวังผลได้..แน่นอนว่ามันเป็นประโยชน์ของทีมอย่างมากในยามคับขัน



แต่ทว่าฝันร้ายก็เกิดขึ้น ริเกลเม่มีปัญหาส่วนตัวกับมาราโดน่าในเรื่องความคิดเห็นไม่ตรงกันและแน่นอน..อีโก้ของมาราโดน่าย่อมไม่ยอมใคร..ผลลัพธ์ในท้ายที่สุดก็ต้องเป็นริเกลเม่ที่รีไทร์ทีมชาติไปในที่สุด การที่ดาวซัลโวฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกของทีมและเป็นทั้งหัวใจของทีมได้ออกไป ..ได้เกิดหลุมดำในตำแหน่งของริเกลเม่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีใครสามารถทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีไปกว่าโรมี่เลย

แม้แต้ "ลิโอเนล เมสซี่" นักเตะที่ทั่วโลกยอมรับว่าเป็นอัจฉริยะคนนึงในวงการลูกหนังก็ไม่สามารถรับภาระอันหนักอึ้งนี้ได้ มาราโดน่าเชื่อในตัวของเมสซี่มากเกินไปในกรณีนี้การมอบหน้าที่เพลเมคเกอร์ของทีมให้กับเมสซี่ ..มันเหมือนโยนหินก้อนใหญ่ให้เมสซี่แบกมันท่ามกลางพายุฝน
ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่ได้ผลและน่าผิดหวัง.. อาร์เจนติน่าร่วงไปอยู่อันดับที่ 4 ในตารางคะแนนและมีสิทธิ์ที่จะไม่ได้ผ่านเข้ารอบคัดเลือกในฟุตบอลโลกปี 2010

อาร์เจนติน่าผลิตนักเตะมากมายและแน่นอนย่อมมีนักเตะที่สามารถจะเข้ามาประคองและกลบหลุมดำในอาร์เจนติน่าได้อยู่บ้าง ..ถึงแม้จะไม่อยู่ในสายตาของเฮดโค้ชอย่างมาราโดน่าแต่ ...แต่ทางเราก็ขอเลือกนักเตะสักกลุ่มหนึ่งที่มีคุณสมบัติพอที่จะแทนที่ของริเกลเม่ในทีมชาติได้ .. ในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรุก



"No.1 Lucho Gonzalez from Olympic Marseille"

คุณสมบัติด้านบวก :

ด้วยร่างกายที่สูงใหญ่หนาและแข็งแกร่งพอสมควรทำให้นักเตะจากมากเซย์ผู้นี้ควรจะถูกพิจารณา การยิงไกลจากแถวสองที่หวังผลได้แน่นอนว่าลูโช่มีการยิงที่หนักหน่วงพอสมควรทั้งการซัดบอลที่ลอยกลางอากาศอย่างแม่นยำ ลูกกลางอากาศในบางจังหวะมีเปอร์เซ็นต์มากขึ้นและการยิงไกลแถวสองที่หวังผลได้ ..การผ่านบอลซึ่งก็ถือว่าเป็นอีกจุดเด่นและมีร่างเงาที่คล้ายกับริเกลเม่พอสมควรในทีเด็ดของ "คิลเลอร์พาส" และลูโช่ยังสามารถช่วยถอยลงไปตัดเกมส์ในยามคับขันได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งถือว่านักเตะคนนี้กับริเกลเม่จะมีเงาบางๆที่คลับคล้ายคลับคลากันอยู่

คุณสมบัติด้านลบ :

ร่างที่สูงใหญ่ ...แน่นอนลูโช่ก็มีความช้าของการเคลื่อนที่ตามมาอาจจะไม่ได้ช้าเท้าริเกลเม่แต่ก็ไม่ได้เร็วมากถึงขนาดกระชากผ่านนักเตะอีกฝ่ายได้สบาย การเล่นบอลยาวของนักเตะผู้นี้ยังไม่มีความแม่นยำมากพอสักเท่าไหร่ หากเปรียบเทียบกับบอลสั้นที่ทรงอาณุภาพ และประเด็นที่น่าเป็นห่วงก็คืออาการบาดเจ็บ ลูโช่นั้นเรียกได้ว่ามีอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่เป็นระยะๆ หากโดนเข้าเกมส์หนักๆรับรองได้เลยว่าเราได้เห็นลูโช่ถูกหามเปลออกนอกสนามแน่ๆ



"No.2 Juan Sebastian Veron from Estudiantes"

คุณสมบัติด้านบวก :

เวรอนนั้นติดทีมชาติชุดใหญ่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วแต่ตำแหน่งที่เค้าได้รับมันออกจะเป็นกึ่งปีกซะด้วยซ้ำ แต่ดูแล้วก็น่าจะเป็นอีกคนที่คอยเชื่อมเกมส์ซะมากกว่า แต่ถ้าจับเวรอนมาในแบบฉบับมิดฟิลด์ตัวรุกอีกครั้งก็น่าสนใจ การเล่นบอลที่ฉลาดเป็นกรดนั้นย่อมทำให้เกิดผลด้านบวกอยู่แล้ว การเล่นบอลเดินทางของเวรอนยังใช้ได้เสมอ ก็คือการผ่านบอลให้เพื่อนหาช่องสร้างจังหวะไปเรื่อยๆมากกว่าเลี้ยงตะลุย การผ่านบอลทะลุช่องนั้นบอกได้เลยว่ายังมีประสิทธิภาพที่ดีอยู่ และยังมีลูกเล่นการปั่นไซร้ก้อยและงัดบอลโด่งข้ามศีรษะฝ่ายตรงข้ามให้เพื่อนร่วมทีมเล่นเห็นอยู่บ้าง การออกบอลโด่งที่รับประกันความแม่น การผ่านบอลของเวรอนเรียกได้ว่าให้ผู้เล่นต่อยอดจนทำประตูได้ และลูกตั้งเตะที่ยังพอได้ลุ้นอยู่บ้างสักนิด

คุณสมบัติด้านลบ :

ด้วยวัย 34 ปีแน่นอนว่าความเร็วนั้นลดลงแทบจะไม่ค่อยเหลือเลยก็ว่าได้..ปัญหาอาการบาดเจ็บที่สามารถปะทุได้ตลอดเวลา และความแข็งแกร่งในการบังบอลเบียดฝ่ายตรงข้ามก็คงเป็นปัญหาที่พ่วงตามวัย และความฟิตที่ยากจะให้ลงเต็มแมตช์ไปทุกนัดมันย่อมเป็นไปไม่ได้ การยิงประตูที่ไม่เฉียบคมเหมือนดังเดิมเรียกได้ว่าแทบจะไม่เห็นเวรอนง้างยิงบ่อยๆเลยก็ว่าได้ และในภาระมิดฟิลด์ตัวรุกกับเวรอนสิ่งที่น่าเป็นห่วงสุดๆก็คือการรักษาฟอร์มให้เสมอต้นเสมอปลายจนถึงฟุตบอลโลก แน่นอนว่าเป็นภาระที่หนักอึ้งเลยทีเดียว



"No.3 D'Alessandro from Internacional"

คุณสมบัติด้านบวก :

ช่วงวัยอายุ 28 ปีเป็นช่วงที่นักฟุตบอลส่วนใหญ่มีฟอร์มที่คงที่ สำหรับดาเลสซานโดรนักเตะโคตรพรสวรรค์รายนี้มีฝีเท้าที่จัดจ้านและมีความเป็นเพลเมคเกอร์ของทีมสูงมาก สิ่งที่ยอดเยี่ยมจริงๆก็คือการผ่านบอลสั้นลูกเรียดให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูและลูกตั้งเตะ ดาเลสซานโดรทำให้ลูกตั้งเตะมีความน่ากลัวเพิ่มขึ้นอย่ามาก และลีลาพริ้วไหวและมีความเร็วทำให้เพลเมคเกอร์เด็กปั้นริเวอร์เพลทรายนี้น่ากลัวขึ้นอย่างมาก ถึงแ้ม้การยิงประตูจะไม่เป็นที่โดดเด่น แต่ความเร็วและเทคนิคต่างๆ การขึ้นเกมส์ที่แบกรับภาระของทีมได้ เป็นตัวพลิกเกมส์ให้ทีมได้บ่อยครั้งและมีวิสัยทัศน์ในการออกบอลที่ยอดเยี่ยมทีเดียว

คุณสมบัติด้านลบ :

เรื่องแรกที่เป็นปัญหาเลยสำหรับดาเลสซานโดรคงหนีไม่พ้นเรื่องอารมณ์ หากนักเตะผู้นี้สติแตกเมื่อไหร่รับรองว่าได้เห็นใบเหลืองหรือใบแดงเกิดขึ้นในเกมส์นั้นแน่ๆ การควบคุมสติกับเกมส์ของดาเลสซานโดรถือเป้นปัญหา และปัญหาเรื่องการพูดจาตำหนิเพื่อนร่วมทีมหรือโค้ชออกผ่านสื่อในเวลาที่เค้าไม่พอใจในเรื่องใดๆของทีมก็ตาม นี่เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่หายสำหรับดาเลสซานโดร เรื่องในการแข่งขันก็คือการโดนยั่วโมโหแล้วเล่นนอกเกมส์กลับ แน่นอนว่ามันเป็นปัญหาทีเดียว ..และจุดด้อยของดาเลสซานโดนก็คือการยิงประตูเค้าไม่ค่อยจะทำประตูบ่อยหรือเป็นกอบเป็นกำสักเท่าไหร่ และทัศนคติกับเกมส์การเล่นและการปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมทีมยังต้องแก้ไขและรอวันคลี่คลายกันต่อไป

ในรายชื่อที่ผ่านมาหากคนใดคนหนึ่งได้เข้ามารับภาระของริเกลเม่ในทีมชาติก็คงหวังได้เพียงว่าทำให้ได้สัก 50% ของอดีตจอมทัพฟ้าขาวผุ้นี้ก็เพียงพอแล้ว

หากอาร์เจนติน่ายังตามหาหัวใจในเกมส์รุกของทีมไม่ได้แน่นอนว่าฝันร้ายของทีมกับฟุตบอลโลก 2010 จะเกิดขึ้นและหลอกหลอนแฟนบอลฟ้าขาวให้เศร้ากันไปตามๆกัน